ขั้นตอนการรื้อถอนอาคาร
ผู้รับเหมาเข้าสำรวจสภาพอาคารและพื้นที่โดยรอบเพื่อทำการประเมินและวางแผนในการรื้อถอนวางแนวรั้ว นั่งร้าน
และเครื่องป้องกันอุบัติเหตุและฝุ่น บริเวณรอบอาคารและพื้นที่ที่จะทำการรื้อถอนทำการรื้อถอนชิ้นส่วนอาคารที่สามารถใช้ประโยชน์หรือขายได้ออกก่อน เช่น สายไฟ ประตู หน้าต่าง สุขภัณฑ์ พื้นไม้จริง กระเบื้องหลังคา และโครงสร้างหลังคาที่ทำจากไม้หรือเหล็ก
ทำการรื้อถอนชิ้นส่วนที่ไม่ใช้โครงสร้างหลักของอาคาร เช่น ผนังเบา ผนังก่ออิฐ ฝ้าเพดาน วัสดุกรุผิวผนัง และวัสดุปูพื้น ซึ่งสามารถทุบหรือทำลายได้ด้วยแรงคน จนเหลือแต่โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก
ใช้เครื่องจักรหนักเข้าทำการรื้อถอนโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก โดยเริ่มจากบนลงล่าง ตั้งแต่เสาชั้นบนสุด ไปจนถึงคานคอดิน และฐานราก
ทยอยขนเศษขยะออกจากพื้นที่ระหว่างการรื้อถอนทุกขั้นตอนปรับหน้าดิน ถมดินให้ได้ระดับพร้อมกับการก่อสร้างใหม่
รื้อถอนอาคารไม่ถูกวิธีก็มีความผิด
ในสายตาของนักลงทุนหรือนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ การได้มาซึ่งทรัพย์ที่มีสภาพเก่าหรือไม่เหมาะกับการใช้งานตามที่ต้องการส่วนใหญ่แล้วอาจมีการเข้าไปรีโนเวทต่อเติม หรือปรับปรุงโครงสร้างให้มีความทันสมัยมากขึ้น อย่างที่นิยมกันในปัจจุบันก็คือการรีโนเวทบ้านมือสองขาย แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อีกกลุ่มหนึ่งที่ต้องการรื้อถอนโครงสร้างทั้งหมดเพื่อดำเนินการสร้างสิ่งปลูกสร้างใหม่ขึ้นมาทดแทนเพราะรู้ว่าการทิ้งสิ่งหนึ่งจะสร้างกำไรให้กับสิ่งใหม่ได้เป็นเท่าตัว
ทำไมต้องทำการรื้อถอนอาคาร?
การรื้อถอนอาคารนั้นส่วนใหญ่มักจะมาจากการประเมินจากเจ้าของหรือคนที่มีความเชี่ยวชาญว่ามีอายุการใช้งานมานานมากแล้วจึงควรค่าแก่การรื้อถอนแล้วทำการก่อสร้างใหม่เพื่อความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยเอง อีกทั้งสภาพการใช้งานของอุปกรณ์และโครงสร้างภายในบางส่วนก็เริ่มสึกหลอไปตามกาลเวลา และอีกหนึ่งเหตุผลก็คือการรื้อถอนเกิดจากการเปลี่ยนมือของเจ้าของทรัพย์สินอาคารเพื่อพัฒนาให้เป็นสิ่งปลูกสร้างใหม่ที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าเดิม อย่างที่เห็นกันในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาที่ข่าวการทุบตึกโรงแรมดุสิตธานีที่อยู่มาแล้วกว่า 50 ปีเพื่อพัฒนาให้เป็นอสังหาริมทรัพย์ร่วมสมัยโครงการใหม่ที่จะสร้างผลลัพธ์และผลกำไรที่มากกว่าเดิม
5 ขั้นตอนการรื้อถอนอย่างถูกกฎหมาย
การรื้อถอนไม่ได้อาศัยเพียงแค่การตัดสินใจแล้วทำได้เลยเพราะการรื้อถอนอาคารนั้นก็มีกฎหมายควบคุมเช่นเดียวกับการต่อเติมหรือการก่อสร้าง ซึ่งก่อนที่จะทำการรื้อถอนจะต้องปฏิบัติตาม 5 ขั้นตอน ดังนี้
1.วิเคราะห์ตัวอาคาร และสภาพแวดล้อมถ้าหากว่าการก่อสร้างจะต้องสำรวจทำเล ก่อนการรื้อถอนก็ต้องศึกษาพื้นที่เช่นเดียวกัน ทั้งตัวอาคาร ชุมชนรอบข้าง และขอบถนนสาธารณะว่ามีลักษณะเป็นอย่างไรเพื่อนำไปสู่การการวางแผนการรื้อถอนเพื่อให้กระทบต่อพื้นที่รอบข้างให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
2.การขออนุญาตรื้อถอนตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร ได้ระบุเอาไว้ว่าโดยมีใจความสรุปว่า “ผู้ที่จะทำการรื้อถอนอาคารที่มีความสูงมากกว่า 15 เมตรและอยู่ห่างจากพื้นที่แวดล้อมทั้งที่ส่วนบุคคลและพื้นที่สาธารณะในระยะที่น้อยกว่าความสูงของตัวอาคารจะต้องทำขออนุญาตทำการรื้อถอน แต่ถ้าไม่เข้าเกณฑ์สามารถทำการรื้อถอนได้เลย
และกรณีการรื้อถอนอาคารทั่วไปที่มีระยะห่างจากอาคารบ้านเรือนหรือที่สาธารณะน้อยกว่า 2 เมตรต้องทำการขออนุญาตทำการรื้อถอนด้วยเช่นกัน ในส่วนของการรื้อถอนบ้านทาวน์เฮ้าส์หรือตึกแถวที่มีผนังเชื่อมต่อกันจะต้องทำการขออนุญาตทุกกรณีและหากไม่ได้รับการยินยอมจากเพื่อนบ้านที่ใช้ผนังร่วมกันจะไม่สามารถทำการขออนุญาตได้
การยื่นขออนุญาตก่อสร้างจะต้องประกอบด้วยเอกสารดังต่อไปนี้
แบบแปลนบ้านสำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของผู้ยื่นขออนุญาตใบยินยอมที่ดินแผนผังบริเวณรอบ ๆ อาคารสำเนาหรือภาพถ่ายโฉนดที่ดินเท่าฉบับจริงสำเนาใบประกอบวิชาชีพของสถาปนิกและวิศวกรผู้ออกแบบหลังจากยื่นคำร้องพร้อมเอกสารครบถ้วนแล้วเจ้าหน้าที่จะใช้เวลาในการพิจารณาการขออนุญาตประมาณ 45 วันนับตั้งแต่วันที่ได้ยื่นคำร้อง เมื่อได้รับใบอนุญาตให้ทำการรื้อถอนแล้วผู้ขออนุญาตจะต้องแสดงหนังสือรายชื่อผู้ควบคุมงานเพื่อให้เป็นบุคคลที่เข้ามาทำหน้าที่ตรวจสอบรับผิดชอบในการดำเนินการรื้อถอนก่อสร้างและไม่ให้ผิดไปจากแผนผังหรือแบบแปลนที่ได้รับอนุญาต
3.เตรียมพื้นที่สำหรับการรื้อถอนเมื่อได้รับใบอนุญาตแล้วจะยังไม่สามารถดำเนินการได้ในทันทีเพราะจะต้องทำการเตรียมพื้นที่ทั้งการปิดกั้นรอบบริเวณเพื่อป้องกันฝุ่นหรือเศษวัสดุอิฐปูนต่าง ๆ ที่อาจจะร่วงหล่นไปในพื้นที่ที่มีคนสัญจรไปมาจนได้รับอันตราย หรือแม้กระทั่งกับตัวคนงานที่เข้ามาทำการรื้อถอนด้วย และการป้องกันอัคคีภัยที่อาจเกิดขึ้นจากการรื้อสายไฟฟ้าภายในตัวอาคาร
4.รื้อถอนส่วนที่เป็นน้ำหนักลงก่อนการรื้อถอนอันดับแรกต้องเริ่มจากการเอาสิ่งของที่มีน้ำหนักลงไปก่อนเพื่อให้ตัวอาคารที่เริ่มสึกหลอนั้นไม่ต้องแบกรับน้ำหนักมากจนเกินไปในระหว่างทำการรื้อถอน ไม่ว่าจะเป็นประเภทสายไฟภายในอาคาร สุขภัณฑ์ รวมถึงอุปกรณ์ตกแต่งอื่น ๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับโครงสร้างหลักของตัวอาคาร
5.รื้อถอนโครงสร้างหลักหลังจากที่ทำการรื้อถอนส่วนที่เป็นน้ำหนักไปแล้วจะเหลือส่วนที่เป็นโครงสร้างหลักของตัวอาคารซึ่งก็คือเสาและพื้นอาคาร ขั้นตอนการรื้อถอนจะเริ่มจากการทุบพื้นก่อนแล้วค่อยทุบส่วนที่เป็นเสาต่อโดยเริ่มการรื้อถอนจากข้างบนลงมาข้างล่างเพื่อป้องกันการถล่มของตัวอาคาร โดยการรื้อถอนแต่ละขั้นตอนจะต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญในการควบคุมดูแลเพราะคนเหล่านี้จะรู้ว่าต้องดำเนินการจัดการกับปัญหาที่มาจากการรื้อถอนอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฝุ่นละอองหรือเสียงรบกวนก็ตาม